12 วิธีในการศึกษาพระคัมภีร์

1. มีพระคัมภีร์:

ก่อนอื่น คุณจะต้องมีพระคัมภีร์ในภาษาไทย หรือภาษาแม่ของคุณ คุณจะพบเวอร์ชันต่างๆ เช่น ฉบับแปลใหม่ (NTV) หรือ อมตธรรมร่วมสมัย (TNCV) หรือเวอร์ชั่นอื่น ๆ ที่ง่ายต่อการเข้าใจสำหรับคุณ จากนั้นเราขอแนะนำให้คุณซื้อพระคัมภีร์แบบรูปเล่ม เพื่อคุณสามารถขีดเส้นใต้ หรือไฮไลท์ข้อความที่คุณชื่นชอบ และจดบันทึกไว้ และคุณสามารถใช้แอปอย่าง YouVersion ได้เช่นกัน หรือเว็บไซต์เช่น BibleGateway.com หรือสอบถามศิษยาภิบาลที่คริสตจักรของคุณ หรืออธิษฐานขอให้พระเจ้านำคุณในการเลือกพระคัมภีร์ที่เหมาะกับคุณ

2. หาสถานที่ ที่สงบ:

เลือกสถานที่เงียบสงบที่คุณสามารถอ่าน และคิดโดยไม่มีการรบกวน อาจเป็นห้องของคุณ สวนสาธารณะ หรือที่ไหนก็ได้ที่คุณรู้สึกสบายใจ แม้ในสภาพแวดล้อมที่พลุกพล่านที่สุด พระเจ้าก็สามารถสร้างบรรยากาศที่สงบสุขสำหรับการศึกษาของคุณ และช่วยให้คุณมีสมาธิได้ถ้าคุณขอพระองค์

3. อธิษฐาน:

เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับพระเจ้าในการอธิษฐาน คุณสามารถพูดประมาณว่า "พระเจ้า โปรดช่วยให้ฉันเข้าใจว่าวันนี้ฉันจะอ่านอะไรในพระคัมภีร์" ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์สอนท่านขณะศึกษาพระคัมภีร์

4. เลือกหนังสือที่จะอ่าน:

พระคัมภีร์เป็นเหมือนห้องสมุด ที่ประกอบด้วยหนังสือ 66 เล่ม ซึ่งประกอบด้วย “พันธสัญญาเดิม” และ “พันธสัญญาใหม่” ให้คุณตัดสินใจว่าคุณต้องการอ่านส่วนใดของพระคัมภีร์ หรือดูแผนการศึกษาที่แนะนำไว้ทางออนไลน์ (เช่น app YouVersion) ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำการเลือกของคุณ จุดเริ่มต้นที่ดีคือ “พันธสัญญาใหม่” อาจจะเป็นหนังสือของมาระโก หรือยอห์น ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับพระเยซู

5. อ่านอย่างละเอียด:

อ่านส่วนเล็ก ๆ ในแต่ละครั้ง อย่ารีบร้อน ให้พยายามทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในข้อความนี้ ให้ความสนใจกับชื่อสถานที่ และเหตุการณ์ต่างๆ พระเจ้าจะทรงให้ความกระจ่างแก่ถ้อยคำที่อ่านสำหรับคุณเมื่อจำเป็น อย่าลืมดูบริบท (สภาพแวดล้อม) ของข้อพระคัมภีร์ด้วย บริบทรวมถึงผู้ที่เขียน เขียนถึงใคร เมื่อใดและเพราะเหตุใด

6. ถามคำถาม:

ถามตัวเองด้วยคำถาม เช่น ข้อความนี้พูดถึงอะไร? ฉันจะเรียนรู้อะไรจากสิ่งที่อ่านได้บ้าง? มันเกี่ยวข้องกับชีวิตของฉันอย่างไร? อธิษฐานข้อเหล่านี้ออกเสียง และฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้ง

7. จดบันทึก:

เขียนความคิด หรือคำถามที่คุณมีลงในสมุดบันทึก สิ่งนี้ช่วยให้คุณจดจำ และเข้าใจได้ดีขึ้น จำไว้ว่าพระคำของพระเจ้านั้นมีพลัง และคุณควรใช้เวลาในการคิดทบทวน หรือใคร่ครวญถึงพระคำของพระเจ้าที่อ่านไปนั้น ความชัดเจนมักจะมาจากการเขียน และอ่านโน้ตซ้ำ

8. ใช้เครื่องมือในการศึกษา:

หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับคำ หรือแนวคิดที่คุณไม่เข้าใจ ถ้าเช่นนั้นให้ใช้หนังสืออธิบายพระคัมภีร์ สาราณุกรม หรือเครื่องมือการศึกษาพระคัมภีร์เพื่อค้นหาคำอธิบาย ข่าวดีคือคุณสามารถให้เครื่องมือเหล่านี้ “ฟรี” เช่นแอพ YouVersion (มีหลายภาษารวมถึงภาษาไทย) หรือ eSword (มีเฉพาะภาษาอังกฤษ) ซึ่งสามารถช่วยให้คุณเข้าใจข้อพระคัมภีร์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คุณสามารถสอบถามศิษยาภิบาลที่คริสตจักร หรือพี่เลี้ยงของคุณ

9. นำสิ่งที่คุณเรียนรู้ไปใช้:

ลองคิดดูว่าข้อความนี้สามารถนำไปใช้กับชีวิตของคุณได้อย่างไร มีอะไรที่คุณสามารถทำได้แตกต่างออกไป หรือมีสิ่งที่คุณสามารถทำได้หรือไม่? ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำทางคุณในการใช้พระคำของพระเจ้าในชีวิตประจำวัน

10. อธิษฐานอีกครั้ง:

จบเวลาการศึกษาพระคัมภีร์ด้วยการอธิษฐานอีกครั้งหนึ่ง ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ และขอความช่วยเหลือจากพระองค์ในการดำเนินชีวิตตามสิ่งที่ได้เรียนรู้มานั้น แสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการดำเนินชีวิต ตามคำสอนของพระคัมภีร์

11. แบ่งปันกับผู้อื่น:

หากคุณพบบางสิ่งที่มีความหมาย ให้คุณแบ่งปันกับเพื่อน สมาชิกครอบครัว หรือคริสตจักรของคุณ การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กับผู้อื่น สามารถช่วยให้คุณเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปล่อยให้การศึกษา และสิ่งที่พระเจ้าสอนคุณเป็นผู้นำการสนทนา และช่วยพัฒนาคำพยานส่วนตัวของคุณ

12. หาพี่เลี้ยง:

ลองหาพี่เลี้ยง ผู้ที่มีประสบการณ์ในการศึกษาพระคัมภีร์ ซึ่งสามารถแนะนำคุณ และตอบคำถามของคุณได้ พี่เลี้ยงสามารถช่วยให้คุณเติบโตในความเข้าใจในพระคำของพระเจ้า

เพื่อเริ่มต้นการอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำ คุณสามารถค้นหาแผนการอ่านง่าย ๆ ออนไลน์หรือในแอพพระคัมภีร์ แอพเหล่านี้ช่วยจัดการแบ่งพระคัมภีร์ให้อ่านเป็นรายวัน ทำให้ง่ายต่อการอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในหนึ่งปี หรือสำรวจหัวข้อที่สนใจได้ง่ายขึ้น ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำคุณไปสู่แผนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ โปรดจำไว้ว่าพระคัมภีร์เป็นวิธีของพระเจ้าใช้ในการพูดกับคุณ ดังนั้นใช้เวลาของคุณ อดทน และมีความสุขในเวลาของคุณกับพระเจ้า ในขณะที่คุณศึกษาพระคำของพระองค์