8 ขั้นตอน สู่ชีวิตการอธิษฐานที่มีประสิทธิภาพ
การอธิษฐานเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้า ต่อไปนี้คือวิธีที่เราจะสื่อสารกับพระผู้สร้างของเรา แสวงหาการนำทางจากพระองค์ และเติบโตในศรัทธา การอธิษฐานจากใจเป็นประจำ จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ จำไว้ว่าไม่ใช่แค่การขอสิ่งของเท่านั้น มันเกี่ยวกับการแสวงหาการใกล้ชิดพระเจ้า และทำให้ใจของคุณสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์
CHALLENGES
1. ทำให้เรียบง่าย:
การอธิษฐานกับพระเจ้า เป็นเหมือนการพูดคุยกับเพื่อนรัก หรือพ่อผู้เปี่ยมด้วยความรัก ไม่จำเป็นต้องมีโครงสร้างหรือกฎเกณฑ์ใด ๆ พระเจ้าทรงรักคุณ และต้องการให้คุณแบ่งปันชีวิตของคุณกับพระองค์ พูดคุยกับพระองค์เกี่ยวกับการต่อสู้ดิ้นรน ความกลัว และชัยชนะของคุณ พระเจ้าทรงพร้อมเสมอ และเต็มใจที่จะพูดคุยกับคุณ
2. แสดงความเคารพ:
เข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และด้วยความเคารพ เริ่มต้นคำอธิษฐานของคุณโดยยอมรับความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และขอบคุณพระองค์สำหรับความรัก และพระคุณของพระองค์ สิ่งนี้จะทำให้เกิดการนมัสการ และสนทนาด้วยความเคารพ ในขณะที่คุณอธิษฐาน คุณอาจก้มศีรษะหรือคุกเข่าเพื่อแสดงความเคารพ หากคุณรู้สึกว่าถูกชักจูงให้ทำเช่นนั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เข้าใจว่าคุณอยู่ต่อหน้ากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทุกพระองค์
3. นิ่งและฟัง:
การอธิษฐานไม่ใช่แค่การพูดคุยกับพระเจ้าเท่านั้น มันเกี่ยวกับการฟังด้วย สร้างช่วงเวลาแห่งความเงียบระหว่างเวลาอธิษฐานเพื่อฟังเสียงของพระเจ้า บ่อยครั้งพระองค์ทรงตรัสด้วยเสียงกระซิบอันอ่อนโยน และใจที่สงบสามารถแยกแยะการนำทางของพระองค์ได้ ฝึกฝนตนเองให้อดทนรอ และเปิดรับคำตอบของพระองค์ในระหว่างการอธิษฐาน
4. สร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการอธิษฐาน:
เลือกสถานที่ในการอธิษฐานที่เงียบสงบ และปราศจากสิ่งรบกวน แบ่งเวลาในแต่ละวันให้ห่างจากผู้อื่น สร้างบรรยากาศที่ช่วยให้คุณมีสมาธิ เช่น เพลงเบา ๆ หรือจุดเทียน ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการติดต่อกับพระเจ้า รักษามุมอธิษฐานของคุณให้สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยอุทิศเพื่อการสนทนาทางจิตวิญญาณกับพระเจ้าเท่านั้น ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อลดการรบกวน สิ่งรบกวนสมาธิเหล่านี้สามารถหันเหความสนใจของคุณไปจากการสถิตอยู่ของพระเจ้า และขัดขวางเวลาที่มีความหมาย
5. ใช้สมุดบันทึกการอธิษฐาน:
บันทึกความคิด คำอธิษฐาน และข้อคิดของคุณ ช่วยให้คุณสามารถติดตามการเดินทางฝ่ายจิตวิญญาณ และสะท้อนถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้า การบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรนี้ สามารถใช้เป็นแหล่งกำลังใจในช่วงเวลาที่ท้าทายได้เช่นกัน ให้เขียนสิ่งที่พระเจ้าบอกกับคุณ
6. เพื่อนร่วมอธิษฐาน:
หาเพื่อนที่ไว้ใจได้เพื่ออธิษฐานด้วยเป็นประจำ (สามารถมีมากกว่า 1 คนได้) พวกเขาสามารถทำให้คุณมีความรับผิดชอบ และการสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ แบ่งปันความสุข และภาระของคุณกับพวกเขา เสริมสร้างความเชื่อศรัทธาของคุณร่วมกัน
7. ใช้พระคัมภีร์:
รวมข้อพระคัมภีร์ไว้ในคำอธิษฐานของคุณ พระคำของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ทรงพลัง เลือกข้อความที่เกี่ยวข้องเพื่อจดจ่อใคร่ครวญ ในระหว่างหรือหลังการอธิษฐานของคุณ เพื่อให้ข้อความเหล่านั้นกระชับความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณของคุณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คุณสามารถแทรกคำว่า “ฉัน” เข้าไปในข้อพระคัมภีร์ เช่น “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักฉันมากจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์...แต่ฉันจะมีชีวิตนิรันดร์”
8. อธิษฐานอย่างมีจุดประสงค์:
ไม่จำเป็นต้องมีแผนหรือรายการคำขอเฉพาะเมื่อมาเข้าเฝ้าพระเจ้า อย่างไรก็ตาม การเขียนรายชื่อบุคคล และสถานการณ์ที่คุณต้องการอธิษฐานเป็นประจำอาจเป็นประโยชน์ สิ่งนี้อาจช่วยให้คุณมีสมาธิ และช่วยให้คุณครอบคลุมประเด็นสำคัญในชีวิตของคุณได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณติดตามคำอธิษฐานที่ได้รับคำตอบ และเป็นพยานในความสัตย์ซื่อของพระเจ้า